ในแต่ละประเทศทั่วโลกผู้คนในแต่ละท้องถิ่นต่างมีวิธีการใช้ชีวิตประจำวัน และการปฎิบัติในสังคมที่แตกต่างกันออกไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ปฎิบัติตามส่วนรวมโดยคนหมู่มาก หรือที่เรียกว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” และถือว่าการปฎิบัติเช่นนี้เป็นมารยาททางสังคมอีกด้วย หากเราต้องไปในประเทศต่าง ๆ เราก็ควรเรียนรู้วัฒนธรรมของเขาด้วย เพราะจะได้ไม่แสดงออกในสิ่งที่เป็นการเสียมารยาท
พวกเราเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างของแต่ละประเทศ และทำให้เรามีเอกลักษณ์ในการปฎิบัติในท้องถิ่นที่เราไม่คุ้นเคยเสริมสร้างเสน่ห์ให้ผู้คนที่พบเห็นอีกด้วย และนี่คือการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศที่เราได้ยกตัวอย่างมาให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติม
1. การให้ทิป
การให้ทิปแสดงน้ำใจต่อคนที่บริการแก่คุณในร้านอาหาร หรือตามโรงแรมต่าง ๆ คุณควรปฎิบัติให้ถูก เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้คุณเหมือนดูถูกพวกเขาเหล่านั้น
- โดยทั่วไปในตะวันตกคุณอาจจะคาดเดาได้ว่าพวกเขาสามารถรับทิปจากคุณโดยตรงได้หรือไม่ จะผิดกฎหรือเปล่า แต่คุณควรให้ตามการบริการว่าควรให้เท่าไหร่ ไม่ควรมาก หรือน้อยจนเกินไป และสามารถให้ตามความพึงพอใจของคุณได้เลย
- หลายประเทศในยุโยปมีการคิดค่าบริการเพิ่มลงไปในใบเก็บเงินของคุณอยู่แล้ว และในบางครั้งคุณควรจะให้ทิปเพิ่มเติมด้วย
- บางประเทศในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ จีน หรือญี่ปุ่นการให้ทิปถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามพวกเขาควรหลีกเลี่ยง เพราะค่าบริการเพิ่มเติมของพวกเขาที่บริการเรา เขาได้รับในใบเสร็จค่าบริการเพิ่มเติมที่เราต้องจ่ายอยู่แล้ว
- ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และซามัว การให้ทิปมักเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คาดหวัง หรือจำเป็นต้องให้เลย ในบางแห่ง เช่น คาสิโน อาจจะมีข้อห้าม
2. การนั่งโต๊ะรวมให้กับผู้อื่น
ในประเทศแถบตะวันตกจะไม่นิยมนั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานกัน ถือว่าเป็นการเสียมารยาท หากจะแชร์โต๊ะให้กับผู้อื่นได้นั่งเป็นการบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว แต่ในทางกับกันประเทศญี่ปุ่นถือว่าการพวกเขาสามารถแชร์โต๊ะให้กับคนแปลกหน้านั่งรับประทานอาหารด้วยกันได้
3. การทักทาย
- ในประเทศแถบละตินอเมริกาการทักทายต่างเพศชายหญิงจะถูกมองเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเพศเดียวกัน ชายและชาย หญิงและหญิงอย่างนี้จะถูกมองว่าไม่เหมาะสม
- ประเทศในตะวันออกกลาง หรือแอฟริกาเหนือ เช่น อิสราเอล อียิปต์ ผู้ชายที่จูบเพื่อนชายถือว่าเป็นการทักทายทั่วไป แต่ผู้ชายจูบกับผู้หญิงในที่สาธารณะมักเห็นว่าไม่เหมาะสมและอาจผิดกฎหมาย มีข้อยกเว้นในประเทศเลบานอน ตูนิเซีย ผู้ชายที่จูบผู้หญิงหากเป็นพี่น้องกันถือว่าปกติ
- ประเทศแถบยุโรปตอนใต้มักจะเป็นการทักทายระหว่างเพื่อน ประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส ไม่มีข้อห้ามระหว่างชายจูบชาย แต่ในประเทศสเปนชายหญิงจูบทักทายกันได้
- โดยทั่วไปในแถบประเทศเอเชียไม่เห็นสมควรในข้อนี้ การจูบทักทายถือว่าไม่เหมาะสมไม่ควรทำเช่นนี้ต่อพื้นที่สาธารณะเด็ดขาด
4. การเว้นระยะห่างในขนาดยืนต่อแถว
สำหรับในประเทศจีนส่วนใหญ่เขาจะไม่นิยมเว้นระยะการต่อแถวเพื่อซื้อของสักเท่าไหร่ ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวของใครของมัน เบียดเสียดกันส่วนใหญ่ เพราะต่างเป็นเมืองธุรกิจผู้คนจำนวนมากเร่งรีบ และแตกต่างในบางประเทศที่เขาจะมีพื้นที่เว้นระยะห่างกัน ไม่อึดอัด
5. การต่อรองราคา
สำหรับในซุปเปอร์มาเก็ตเราจะไม่ต่อรองราคากันอยู่แล้ว และต้องจ่ายตามราคาจริง แต่ส่วนใหญ่เมื่อต้องการจ่ายสินค้าในราคาที่ถูกลงจะต้องมีบัตรส่วนลด ซึ่งบางคนสะสมมันไว้เยอะมากชนิดที่เรียกได้ว่าเหมือนมาปล้นเอาไปฟรี ๆ เลยแหละ ชอบความคุ้มบัตรสะสมแต้มช่วยคุณได้
6. การตกแต่งจานอาหาร
ในประเทศอินเดีย และญี่ปุ่น การเสิร์ฟอาหารโดยที่ไม่ตกแต่งจานถือเป็นการดูถูกเหยียดหยาม แต่สำหรับในประเทศจีนหากได้รับอาหารจานนั้นแค่ดูสุภาพตกแต่งนิดหน่อย แต่ไม่ต้องทำให้สวยหรูมากก็ไม่เป็นไร
7. การให้อิสระภาพในที่สาธารณะ
ในประเทศสิงคโปร์ถือว่าการเปลือยกายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และห้ามไม่ให้เปลือยกายนอกบ้านของตัวเอง ต้องเปลือยชุดในห้องน้ำ ไม่เปลี่ยนท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ในบางประเทศพวกเขาสามารถทำได้เลย หากไม่ได้ดูอนาจารมากเกินไป ถือว่าไม่ผิดให้อิสระในข้อนี้
8. การแบ่งปันอาหาร
สำหรับประเทศเกาหลีพวกเขาสามารถใช้อุปกรณ์การตักอาหารของพวกเขาเองตักแบ่งให้กับเพื่อนได้เลย เพราะพวกเขาไม่ถือเรื่องนี้ และแบ่งกับเพื่อนเป็นประจำ ตรงกันข้ามกับอีกประเทศที่ต้องมีภาชนะเพื่อแบ่งอาหารให้เพื่อนทุกคนและใช้ช้อนกลางตักแบ่ง
9. การตะโกน
ในประเทศจีนการตะโกนในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องปกติ พวกเขาใช้วิธีนี้ดึงดูดความสนใจ เช่น เมื่อเวลาไปรับประทานอาหาร เขาจะสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด หรือแม้กระทั่งใช้วิธีตะโกนพูดคุยเลย แต่ในประเทศตะวันตกนี่เป็นสิ่งที่ไม่สุภาพมาก ๆ เลย
10. การเหวี่ยงใส่ผู้อื่น (แสดงอารมณ์ที่รุนแรง)
ในลักษณะการแสดงความต้องการของผู้หญิงในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับผู้หญิงประเทศจีนที่เขาแสดงท่าทีเหมือนเหวี่ยงอารมณ์ใส่เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ มันเป็นศิลปะของการที่อยากจะบอกว่าต้องการสิ่งนี้เพียงเท่านั้น อาจจะดูไม่น่ารักสำหรับผู้คนที่ได้พบเห็นสักเท่าไหร่ และแตกต่างกับอีกประเทศที่ทำตัวอ่อนหวานออดอ้อนเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ มันจึงเป็นพฤติกรรมที่ต่างกันมาก ๆ
แม้สีที่ดูแตกต่างกัน
ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกไฟจราจรสีเขียวที่หมายถึงไปได้เลย แต่สำหรับบางประเทศ สีฟ้าและสีเขียวถูกมองว่าเป็นเฉดสีเดียวกัน จึงใช้แทนกัน ยกตัวอย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้สีฟ้าแทนสีเขียวในสัญญาณไฟจราจร แต่ยังคงสีแดงกับเหลืองเอาไว้อยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดเลย หากคุณได้เรียนรู้สีของไฟจราจรแล้ว ในเวลาที่คุณต้องเจอไฟสัญญาณจราจรแบบนี้ก็จะไม่สับสนอีกต่อไป
ที่มา : brightside